วันที่ 20 ก.ย. 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีถูกกลุ่มคนประมาณ 10 คน รุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา บนสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม ที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านหาดกวน หมู่ 13 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทนกับ บ้านอุ่มไผ่ หมู่ 3 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม โดยได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่งหลังเข้าให้ปากคำ ผู้เสียหายทั้งสองได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทั้งสองอาศัยอยู่หมู่บ้านติดกัน ในช่วงหัวค่ำวันเกิดเหตุ น.ส.ซี (นามสมมติ) เพื่อนที่อยู่บ้านหาดกวน ได้โทรศัพท์หา น.ส.เอ บอกให้ไปหาที่บ้าน เพราะมีเรื่องจะเคลียร์ปัญหาหัวใจกับคนอีกหมู่บ้านหนึ่ง น.ส.เอ จึงชวน น.ส.บี ไปเป็นเพื่อน



ระหว่างนั้น ฝั่งคู่กรณีก็บอกให้ น.ส.ซี ออกไปเคลียร์กันที่สะพานข้ามแม่น้ำสงคราม พวกตนจึงนั่งซ้อน จยย. อัด 3 ไปยังสะพานดังกล่าว ปรากฏว่าคู่กรณีของ น.ส.ซี รออยู่ที่กลางสะพานก่อนแล้ว ซึ่งก็เป็นเพื่อนที่รู้จักกันกับพวกตนเป็นอย่างดี เพราะเรียนด้วยกัน



แต่พอฝั่งนั้นพอเห็นตนมาด้วย ก็มีการโทรศัพท์ไปหาหญิงอีกคนหนึ่ง นามสมมติ น.ส.ดี บอกว่า “คู่อริ มารหัวใจก็มาด้วย” เนื่องจากตนเคยชอบพอกับชายคนหนึ่ง อายุ 17 ปี แต่ภายหลังได้เลิกรา และไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว และชายคนนี้ก็ไปคบกับ น.ส.ดี ส่วนตนก็มีแฟนใหม่แล้ว



แต่ น.ส.ดี อาจคิดว่าตนวนเวียนมาอ่อยฝ่ายชาย จึงสั่งการผ่านทางโทรศัพท์ ให้เรียกพรรคพวกมาเพิ่มแล้วสั่งให้รุมทำร้ายตนจนกองลงกับพื้น โดยมีเพื่อนของ น.ส.ดี ถ่ายคลิปตอนตนโดนทำร้าย นำไปแชร์ในเฟซบุ๊กและติ๊กต็อก



หลังจากรุมทำร้ายจนหนำใจ กลุ่มผู้ก่อเหตุก็แยกย้ายกันไป ส่วนตนหอบร่างที่สะบักสะบอมพา น.ส. บี ไปแจ้งความ ซึ่งระหว่างนั้น น.ส.ดี ยังโทรศัพท์มาขู่ตนว่า “ระวังตัวไว้ จะจับโยนลงแม่น้ำสงคราม”



การแจ้งความครั้งนี้ ตนไม่ได้หวังเงินเยียวยา แต่โทรศัพท์ไอโฟนของตนถูกพวกนั้นกระทืบจนพัง จึงต้องการให้มาชดใช้ ยืนยันว่าเรื่องของตนกับแฟนหนุ่มของ น.ส.ดี เป็นเรื่องในอดีต แต่ น.ส.ดี หึงหวงคิดว่าถ่านไฟเก่าจะคุขึ้นมา



ด้านพนักงานสอบสวน จะมีหนังสือเรียกคู่กรณีมาเจรจากัน ในวันจันทร์ที่ 22 ก.ย. นี้