ปิดงานงดจ้าง คืออะไร "ทนายฝ้าย" คลินิกกฎหมายแรงงาน อธิบายความหมายไม่ใช่การ "เลิกจ้าง" แต่เป็นการใช้สิทธิตอบโต้ลูกจ้าง กรณีมีข้อพิพาทแรงงานเกิดขึ้น จะยุติลงเมื่อข้อพิพาทฯ ได้รับการระงับ

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 จากกรณีที่บริษัท "ไดกิ้น" ประกาศปิดงานงดจ้าง สหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรี และสมาชิกสหภาพที่เกี่ยวข้อง หลังตกลงข้อพิพาทเรื่องโบนัสไม่ลงตัว


ล่าสุด ทนายฝ้าย เจ้าของเพจ คลินิกกฎหมายแรงงาน ได้โพสต์อธิบายเรื่อง "การปิดงานของนายจ้าง" โดยระบุข้อความว่า การปิดงานของนายจ้าง ไม่ใช่การเลิกจ้าง แต่เป็นการใช้สิทธิเพื่อตอบโต้ลูกจ้างในกรณีที่มีข้อพิพาทแรงงานเกิดขึ้นและไม่สามารถตกลงกันได้ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด

การปิดงานของนายจ้างอ้างอิงมาตรา ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ดังนี้ 

- มาตรา 21 และ 22 ซึ่งเป็นมาตราที่กำหนดขั้นตอนการดำเนินการข้อเรียกร้อง จนนำไปสู่การเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่เปิดให้มีการใช้สิทธิปิดงานได้

- มาตรา 21 กำหนดให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลผูกพันคู่กรณี

- มาตรา 22 กำหนดขั้นตอนเมื่อข้อเรียกร้องไม่ได้รับการยอมรับ นำไปสู่การไกล่เกลี่ยของพนักงานประนอมข้อพิพาท (ถ้าไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ และไม่มีการตกลงตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน) จะถือว่าเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขให้ใช้สิทธิปิดงาน รึนัดหยุดงานได้


ซึ่งการปิดงานตามมาตรา 5 มีคำนิยามว่าคือการที่นายจ้างไม่ยอมให้ลูกจ้างทำงานชั่วคราว เนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน

- มาตรา 34 วรรคสอง กำหนดว่าก่อนการปิดงานหรือการนัดหยุดงาน ให้ฝ่ายที่จะปิดงานหรือนัดหยุดงาน แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง

ผลของการปิดงาน

เมื่อนายจ้างดำเนินการปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมาย (ทำตามขั้นตอนตามมาตรา 13, 22, และ 34 วรรคสอง) ผลที่ตามมาคือออก

1. การจ้างแรงงานยังคงอยู่ การปิดงานเป็นเพียงการหยุดทำงานชั่วคราว ไม่ได้เป็นการเลิกจ้าง

2. นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง เนื่องจากสัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้เพราะการปิดงานของนายจ้าง (ซึ่งเป็นการใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย) นายจ้างจึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในช่วงเวลานั้น (อ้างอิงแนวคำพิพากษาศาลฎีกา)

3. แต่หากการปิดงานนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เช่น ปิดงานโดยไม่มีข้อพิพาทแรงงาน, ปิดงานในกิจการที่ห้ามปิด, หรือไม่ได้แจ้งล่วงหน้า) นายจ้างอาจต้องรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในช่วงที่ปิดงานนั้นได้ (เป็นการจ่ายค่าเสียหาย)

นอกจากนี้ นายจ้างยังมีสิทธิจ้างบุคคลอื่นทำงานแทน ตามมาตรา 35 (3) นายจ้างมีสิทธิจัดให้บุคคลอื่นเข้าทำงานแทนที่ลูกจ้างซึ่งมิได้ทำงานเพราะการปิดงานหรือการนัดหยุดงานได้ โดยนายจ้างต้องยอมให้บุคคลเหล่านั้นเข้าทำงาน และห้ามมิให้ลูกจ้างขัดขวาง

สรุป 

การปิดงานจะยุติลงเมื่อข้อพิพาทแรงงานได้รับการระงับแล้ว ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ ทั้งสองฝ่ายตกลงตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ตามมาตรา 26

โดยคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ก.ร.ส.) ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ในกรณีที่เป็นกิจการที่สำคัญตามมาตรา 23 (เช่น กิจการรถไฟ, โรงพยาบาล, การประปา) หรือกิจการอื่นๆ ตามมาตรา 25 และมาตรา 36 และจบที่นายจ้างประกาศ ยกเลิกการปิดงาน


สรุป ปิดงานไม่ใช่เลิกจ้าง และใครอึดกว่าคนนั้นชนะ 


(คลิกเพื่อชมโพสต์)


ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คลินิกกฎหมายแรงงาน